High power laser therapy คืออะไร กายภาพบำบัดด้วยเลเซอร์กำลังสูง

ปัจจุบันทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพมากขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจคือ High Power Laser Therapy หรือการกายภาพบำบัดด้วยเครื่องเลเซอร์กำลังสูง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในวงการแพทย์และกายภาพบำบัด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ High Power Laser Therapy อย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน ประโยชน์ ไปจนถึงข้อควรระวังต่าง ๆ

High Power Laser Therapy คืออะไร

High Power Laser Therapy คือ นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้ในการบำบัดอาการปวด และการอักเสบจากการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ด้วยความสามารถในการส่งพลังงานลึกถึง 6 เซนติเมตรใต้ผิวหนังโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เทคโนโลยีนี้ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติของร่างกาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือข้อต่อ สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการทำงานเป็นอย่างไร

เมื่อ High Power Laser Therapy หรือแสงเลเซอร์กำลังสูงถูกส่งผ่านผิวหนังเข้าไปในเนื้อเยื่อ จะเกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมีหลายอย่าง ดังนี้

• การเพิ่มการไหลเวียนของเลือด: แสงเลเซอร์กระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ได้มากขึ้น
• การลดการอักเสบ: High Power Laser Therapy ช่วยลดการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และกระตุ้นการผลิตสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติของร่างกาย
• การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: แสงเลเซอร์ช่วยกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนมากขึ้น ซึ่งสำคัญต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
• การเพิ่มการผลิตพลังงานในเซลล์: High Power Laser Therapy ช่วยเพิ่มการทำงานของไมโตคอนเดรีย ทำให้เซลล์ผลิตพลังงาน (ATP) ได้มากขึ้น
• การลดความเจ็บปวด: เลเซอร์ช่วยลดการส่งสัญญาณความเจ็บปวดและกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารระงับปวดตามธรรมชาติของร่างกาย

High Power Laser Therapy เหมาะกับกลุ่มอาการใด

High Power Laser Therapy เป็นทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหลายกลุ่มอาการ ได้แก่

กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม

เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในสำนักงานเป็นเวลานาน มักพบในคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมง อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหลัง ตาล้า และอาการชาที่มือหรือแขน ซึ่ง High Power Laser Therapy จะช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

กลุ่มอาการที่ปวดคอ บ่า และไหล่

มักเกิดจากการอยู่ในท่าทางเดิมนาน ๆ หรือการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนี้มากเกินไป High Power Laser Therapy จะช่วยลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดการอักเสบ ทำให้อาการปวดบรรเทาลง

กลุ่มอาการปวดหลัง

สาเหตุมีหลากหลาย เช่น การยกของหนัก ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง หรือโรคกระดูกสันหลัง ซึ่ง High Power Laser Therapy สามารถช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ กระดูกสันหลัง ทำให้อาการปวดลดลงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ

กลุ่มอาการปวดสะโพก

อาจเกิดจากการบาดเจ็บ การเสื่อมของข้อสะโพก หรือการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ ซึ่ง High Power Laser Therapy จะช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวด และกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ ทำให้การเคลื่อนไหวของสะโพกดีขึ้น

กลุ่มอาการปวดส้นเท้า หรือโรครองช้ำ

เกิดจากการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า มักพบในนักกีฬาหรือผู้ที่ต้องยืนนาน ๆ ซึ่ง High Power Laser Therapy จะช่วยลดการอักเสบของพังผืด บรรเทาอาการปวด และกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ ทำให้อาการดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มเส้นเอ็นอักเสบ

เกิดจากการใช้งานเส้นเอ็นมากเกินไปหรือการบาดเจ็บ พบได้ในหลายส่วนของร่างกาย เช่น ข้อมือ ข้อศอก หัวเข่า เป็นต้น โดย High Power Laser Therapy จะช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวด และกระตุ้นการซ่อมแซมของเส้นเอ็น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

กลุ่มอาการปวดข้อศอก หรือข้อมือ 

มักเกิดจากการใช้งานซ้ำ ๆ เช่น การเล่นกีฬาหรือการทำงานที่ต้องใช้มือมาก เป็นต้น ซึ่ง High Power Laser Therapy จะช่วยลดการอักเสบของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อ บรรเทาอาการปวด และเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้การฟื้นฟูข้อศอกหรือข้อมือได้เร็วขึ้น

7 ประโยชน์ของ High Power Laser Therapy

การรักษาด้วย High Power Laser Therapy มีประโยชน์มากมาย จึงทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง 

บรรเทาอาการปวด

High Power Laser Therapy สามารถบรรเทาอาการปวดจากโรคข้อเสื่อม ปวดหลัง ปวดคอ และอาการปวดเรื้อรังอื่น ๆ โดยกลไกการทำงาน คือเลเซอร์กระตุ้นการผลิตเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารระงับปวดตามธรรมชาติของร่างกาย 

ลดการอักเสบ

High Power Laser Therapy เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอักเสบของข้อต่อหรือเอ็น เช่น เทนนิสเอลโบว์ หรือข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น ซึ่งเลเซอร์จะช่วยลดการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด 

เร่งการฟื้นตัวของบาดแผล

การรักษาด้วย High Power Laser Therapy จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของบาดแผล โดยกระตุ้นการสมานแผลและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น โดยเลเซอร์จะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ได้ 

ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

High Power Laser Therapy มีประโยชน์ในการฟื้นฟูการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ช่วยในการรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อที่พบบ่อยในนักกีฬา โดยเลเซอร์จะช่วยลดการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเนื้อเยื่อ

การรักษาด้วย High Power Laser Therapy จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ ลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ โดยเลเซอร์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อคอลลาเจน รวมถึงกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปพร้อม ๆ กัน 

ลดอาการชา

High Power Laser Therapy มีประสิทธิภาพในการลดอาการชา โดยเฉพาะอาการชาจากการกดทับเส้นประสาท เช่น โรคอุโมงค์ข้อมือ โดยเลเซอร์จะช่วยลดการอักเสบรอบ ๆ เส้นประสาท รวมถึงกระตุ้นการซ่อมแซมของเซลล์ประสาท

กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

การรักษาด้วย High Power Laser Therapy ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ต้านทานโรคได้ดีขึ้น โดยเลเซอร์จะกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และเพิ่มการไหลเวียนของน้ำเหลือง 

ขั้นตอนการรักษา มีกี่ขั้นตอน? มีอะไรบ้าง?

การรักษาด้วย High Power Laser Therapy มีขั้นตอนดังนี้

1. การประเมินอาการ: แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดจะทำการตรวจประเมินอาการและความเหมาะสมในการใช้ High Power Laser Therapy
2. การเตรียมตัว: ผู้ป่วยต้องสวมแว่นตาป้องกันแสงเลเซอร์ และทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการรักษา
3. การปรับตั้งเครื่อง: แพทย์จะปรับความเข้ม และความยาวคลื่นของแสงเลเซอร์ให้เหมาะสมกับอาการและตำแหน่งที่ต้องการรักษา
4. การฉายแสงเลเซอร์: แพทย์จะใช้หัวฉายเลเซอร์วางบนผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษา โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5-15 นาทีต่อจุด
5. การประเมินผล: หลังการรักษา แพทย์จะประเมินผลและอาจปรับแผนการรักษาตามความเหมาะสม

การเตรียมตัวก่อนและหลังการรักษาด้วย High Power Laser Therapy

ก่อนทำ High Power Laser Therapy หรือการรักษาด้วยเลเซอร์พลังงานสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการและเตรียมตัวให้พร้อม ส่วนหลังการรักษา ควรดูแลบริเวณที่ทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา

• แจ้งประวัติการแพ้ยาหรือการรักษาอื่น ๆ ให้แพทย์ทราบ
• หลีกเลี่ยงการใช้ครีม หรือโลชั่นบริเวณที่จะทำการรักษา
• สวมเสื้อผ้าที่สามารถเปิดบริเวณที่จะรักษาได้สะดวก
• งดการรับประทานยาแก้ปวด หรือยาต้านการอักเสบก่อนการรักษา (ยกเว้นได้รับคำแนะนำจากแพทย์)

การดูแลตัวเองหลังการรักษา

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ได้รับการรักษาด้วยความร้อนหรือความเย็นจัด
• งดการออกกำลังกายหนัก ๆ ในวันที่ได้รับการรักษา
• ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยในการขับสารพิษ
• สังเกตอาการผิดปกติ และแจ้งแพทย์หากมีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ปวด บวม หรือมีผื่นแดง เป็นต้น
• ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องการทำกายภาพบำบัดเสริมและการใช้ยา
• พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ข้อที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจบำบัดด้วย High Power Laser Therapy

แม้ว่าจะเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย แต่ High Power Laser Therapy ก็มีข้อดี ข้อควรระวังและข้อห้าม ดังนี้

ข้อดีในการบำบัดด้วย High Power Laser Therapy

• บรรเทาความเจ็บปวด: กระตุ้นกลไก Gate Control เพื่อระงับความปวด และใช้กระบวนการ Photomechanical ยับยั้งสัญญาณความเจ็บปวด
• เร่งการฟื้นฟูเซลล์: เพิ่มการผลิตพลังงาน (ATP) ในเซลล์ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้กระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
• ลดการอักเสบ: กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และช่วยให้ระยะเวลาการอักเสบสั้นลง
• เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียน: ขยายหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง เพิ่มการส่งออกซิเจน สารอาหาร และ Growth Factor ไปยังเนื้อเยื่อ รวมถึงช่วยขจัดของเสียออกจากบริเวณที่บาดเจ็บ
• ลดอาการบวม: สร้างคลื่นแรงดันในเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง

ส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

• กระตุ้นการฟื้นฟูของเส้นประสาทและกระดูก: ช่วยกระบวนการซ่อมแซม
• คลายกล้ามเนื้อ: ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ

ข้อควรระวังในการบำบัดด้วย High Power Laser Therapy

• รอบดวงตา: ห้ามใช้ใกล้ดวงตา อาจทำให้ตาบาดเจ็บ
• เนื้องอก/มะเร็ง: ห้ามใช้ เพราะอาจกระตุ้นเซลล์มะเร็ง
• ผู้ที่ได้รับการฉายแสง/เคมีบำบัด: ผิวบอบบาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
• รอยสัก: เลี่ยงใช้ตรงรอยสัก อาจทำให้สีเปลี่ยนหรือระคายเคือง

ข้อห้ามในการบำบัดด้วย High Power Laser Therapy

• มีไข้: การรักษาด้วยเลเซอร์อาจไม่เหมาะสมในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ
• ตั้งครรภ์: การรักษาด้วยเลเซอร์ อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
• ผู้มีประวัติลมชัก: แสงเลเซอร์อาจกระตุ้นให้เกิดอาการชักได้ในผู้ป่วยที่มีประวัติลมชัก
• บริเวณที่รับความรู้สึกผิดปกติ: หากบริเวณที่ต้องการรักษาสูญเสียความรู้สึก อาจทำให้ไม่สามารถรับรู้ความร้อนจากเลเซอร์ได้ ซึ่งอาจเป็นอันตราย
• ผู้ที่ไวต่อแสง: ผู้ที่ผิวหนังไวต่อแสงอาจมีอาการแพ้ หรือระคายเคืองจากแสงเลเซอร์ได้
• ผู้ที่ได้รับยาฉีดสเตียรอยด์: ยาสเตียรอยด์อาจลดประสิทธิภาพของการรักษาด้วยเลเซอร์
• บริเวณผ่าตัดใส่เหล็ก: การรักษาด้วยเลเซอร์บริเวณที่มีการผ่าตัดใส่เหล็กอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมและเป็นอันตรายได้

High Power Laser Therapy ราคาเท่าไร ทำที่ไหนดี

Zeniq Holistic มีการให้บริการ High Power Laser Therapy ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดย High Power Laser Therapy หรือเลเซอร์กายภาพบําบัด จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามความซับซ้อนของอาการและจำนวนจุดที่ต้องรักษา นอกจากนี้ ยังมีแพ็กเกจการรักษาแบบต่อเนื่องที่ช่วยให้ผู้ป่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อีกด้วย

สรุป

High Power Laser Therapy หรือการกายภาพบำบัดด้วยเลเซอร์กำลังสูงเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาอาการบาดเจ็บ รวมถึงความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ ด้วยกลไกการทำงานที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมและฟื้นฟูของเซลล์ในร่างกาย High Power Laser Therapy จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาอาจสูงกว่าวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม แต่ด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว ทำให้ High Power Laser Therapy เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ High Power Laser Therapy ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด