ดริปผิวกับฉีดผิว ต่างกันยังไง? เปรียบเทียบข้อดี เลือกแบบไหนดี

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมดาราถึงมีผิวสวยใสอมชมพู? หนึ่งในเคล็ดลับความงามที่หลายคนให้ความสนใจคือการดริปผิวและการฉีดผิว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทั้งสองวิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับผิวของคุณได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดี หรือการแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด

ดริปผิวกับฉีดผิว มีวิธีการต่างกันยังไง

ดริปผิวกับฉีดผิว ต่างกันยังไง? การดริปวิตามินผิวและการฉีดผิวคือการรักษาแบบเดียวกัน แต่ชื่อเรียกต่างกัน ซึ่งการดริปผิว หรือ IV Drip จะใช้ปริมาณน้ำเกลือเริ่มต้นที่ 100-250 cc. แล้วแต่สูตรและความเข้มข้นของวิตามิน ส่วนการฉีดผิว หรือ IV push ใช้ปริมาณน้ำเกลือไม่เกิน 20 cc เหมาะกับยาวิตามินสูตรที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการทำ ไม่นานเท่าการดริปผิว

ประโยชน์ของการเติมวิตามินให้ผิว

การเติมวิตามินให้ผิวเป็นการบำรุงผิวแบบล้ำลึก เพื่อให้ผิวของคุณกลับมามีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ และสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผิวแบบไหนก็ตาม

• ผิวสวยใส อิ่มน้ำ วิตามินจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ริ้วรอยดูจางลง และผิวกลับมาเรียบเนียน
• ผิวแข็งแรง สุขภาพดี การเติมวิตามินจะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้น สามารถป้องกันการทำร้ายจากมลภาวะและแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น
• ผิวขาวกระจ่างใส วิตามินจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวของคุณขาวกระจ่างใสขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยแผลเป็นดูจางลง
• ผิวอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง วิตามินจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง ดูมีออร่า
• สุขภาพดีจากภายใน นอกจากผิวจะสวยใสแล้ว การเติมวิตามินยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการอ่อนล้า ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
• เห็นผลเร็ว คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากการทำเพียงไม่กี่ครั้ง ผิวของคุณจะดูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดริปผิว มีสูตรต่างกันยังไง

ดริปผิวกับฉีดผิว มีสูตรต่างกันยังไง? ไม่ว่าจะเป็นการดริปหรือการฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง สูตรนั้น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับทางคลินิกที่จะออกแบบสูตรและส่วนผสมไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ Zeniq Holistic Clinic มีสูตรดริปวิตามินหลากหลายสูตรที่คัดสรรมาเพื่อดูแลสุขภาพของคุณโดยเฉพาะซึ่งสูตรแต่ละสูตรจะเป็นการออกแบบร่วมกันเฉพาะบุคคลระหว่างผู้ที่รับการรักษากับแพทย์ผู้ทำการรักษา มาดูกันว่าสูตรไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด

• Supreme DM ผิวสวย สุขภาพดี และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันส่วนเกิน 
• Vascular Support ฟื้นฟูผิวให้เปล่งปลั่งด้วยการเพิ่มการไหลเวียนเลือดและออกซิเจน
• Liver Detoxification ขจัดสารพิษในร่างกาย ผิวใสไร้สิว ลดเลือนริ้วรอย
• Super C/Megadose Vitamin C เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผิวชุ่มชื้น อ่อนเยาว์
• Hormone Support ปรับสมดุลฮอร์โมน รู้สึกดีทั้งกายและใจ
• Enhance Metabolism เร่งการเผาผลาญ ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
• Stress Free ช่วยให้ผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง และนอนหลับสนิทขึ้น
• Organ Support ฟื้นฟูอวัยวะภายใน ให้สมองและหัวใจแข็งแรง รวมถึงให้ตับและไตทำงานดี
• Immune Support เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
• After Party ฟื้นฟูร่างกายหลังปาร์ตี้ เติมพลังให้มีชีวิตชีวา
• Disease Improvement ช่วยผู้ป่วยเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี 
• Cocktail Infusions 3 สูตร ได้แก่ สูตรฟื้นฟูเซลล์ให้แข็งแรง สูตรเพิ่ม NAC ขจัดสารพิษในตับ และสูตรเพิ่ม NAC + Glutathione ลดเลือนริ้วรอย ผิวกระจ่างใส ลดความเครียดจากภายใน 

การดริปผิว ราคาต่างกันยังไง

การดริปผิวและฉีดผิวมีราคาแตกต่างกัน ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดและปริมาณของสารที่ใช้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิว ที่ Zeniq Holistic Clinic มีสูตรที่เลือกตามความต้องการเฉพาะบุคคล ดังนี้

• สูตรบำรุงผิวทั่วไป ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ หรือต้องการเพิ่มความกระจ่างใส
• สูตรเฉพาะบุคคล ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท สำหรับใครที่ต้องการบำรุงผิวแบบเจาะลึก แพทย์ก็จะทำการตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์สภาพผิวของคุณก่อน และออกแบบสูตรวิตามินที่เหมาะสมที่สุด

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทำไมราคาดริปวิตามินผิวถึงมีราคาถูกและแพงต่างกัน?

การดูแลตัวเองทั้งก่อน-หลังเติมวิตามินให้ผิว

การดูแลผิวทั้งก่อนและหลังเติมวิตามินถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและผิวสวยสุขภาพดี ซึ่งการเตรียมตัวก่อนเติมวิตามินที่เหมาะสม และการดูแลหลังเติมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การเตรียมตัวก่อนเติมวิตามินให้ผิว

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำเปล่าวันละอย่างน้อย 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และยังช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย
• ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ก่อนตัดสินใจทำทรีตเมนต์ใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและสุขภาพโดยรวม เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
• เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแล เพื่อความมั่นใจในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย

การดูแลตัวเองหลังเติมวิตามินให้ผิว

• หลีกเลี่ยงแสงแดด หลังเติมวิตามิน ผิวจะค่อนข้างไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป เพื่อป้องกันผิวไหม้และการเกิดฝ้า กระ
• พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย และทำให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่ง
• ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและขับของเสียออกจากร่างกาย
• เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และธัญพืช เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
• ปรึกษาแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก ผิวแดงหรือปวดบริเวณที่ให้วิตามิน ให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที นอกจากนี้ หลังทำควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย

ดริปผิวกับฉีดผิว กับหมอกระเป๋าปลอดภัยหรือไม่ ต่างกันกับที่คลินิกยังไง

การดริปผิวและฉีดผิวกับหมอกระเป๋าและคลินิกความงามมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยและคุณภาพของบริการ การทำกับหมอกระเป๋าอาจเสี่ยงต่อการแพ้ยาอย่างรุนแรงซึ่งอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ อาจจะเกิดการติดเชื้อและผลข้างเคียงต่าง ๆ เนื่องจากขาดมาตรฐานทางการแพทย์ ในขณะที่การทำที่คลินิกจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพและมีโอกาสที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีตามที่ต้องการ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดริปผิวกับฉีดผิวต่างกันยังไง (FAQs)

การดริปผิวกับฉีดผิวขาวขึ้นจริงไหม

ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น หากทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนผสมเข้มข้นของวิตามินหลายชนิด ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวดูขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง และชะลอการเกิดริ้วรอย 

ถ้าหยุดดริปผิวกับฉีดผิวขาว จะกลับมาคล้ำหรือไม่

หยุดฉีดแล้วผิวจะไม่กลับไปคล้ำเหมือนเดิมแน่นอน แต่เพื่อให้ผิวสวยใสสุขภาพดีอยู่เสมอ การดูแลผิวเป็นประจำก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมกันแดด บำรุงผิวด้วยโลชั่น หรือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้

การดริปผิวกับฉีดผิว สิ่งไหนต้องทำบ่อยกว่ากัน

โดยทั่วไป การดริปผิวและการฉีดผิวจะทำห่างกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับสูตรและความต้องการของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ฉีด จึงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรต้องทำบ่อยกว่ากัน

สรุป

การดริปผิวและการฉีดผิวคือการรักษาแบบเดียวกัน แต่ชื่อเรียกต่างกัน ซึ่งการดริปผิว หรือ IV Drip จะใช้ปริมาณน้ำเกลือเริ่มต้นที่ 100-250 cc. แล้วแต่สูตรและความเข้มข้นของวิตามิน ส่วนการฉีดผิว หรือ IV push ใช้ปริมาณน้ำเกลือไม่เกิน 20 cc เหมาะกับยาวิตามินสูตรที่ไม่เข้มข้นจนเกินไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการทำ ไม่นานเท่าการดริปผิว 

ซึ่งทั้งสองวิธีจะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดริ้วรอย และเสริมสร้างคอลลาเจน โดยควรทำที่คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย และต้องดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำอย่างเหมาะสม เช่น ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดด และพักผ่อนให้เพียงพอ สามารถทำได้ทุก 1-2 สัปดาห์หรือ 1 เดือนต่อครั้งขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล