ใครบ้างที่ไม่อยากมีผิวสวยใส เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี? ในยุคที่ความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญ การดูแลผิวจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ หลายคนต่างมองหาวิธีการดูแลผิวที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน หนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ การฉีดผิวใสด้วย Skin Booster
แต่ Skin Booster คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? และเหมาะกับใคร? มาทำความรู้จักกับนวัตกรรมความงามที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคุณให้มากไปพร้อมกันได้ในบทความ
Skin Booster คืออะไร?
Skin Booster คือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยสารไฮยาลูโรนิก แอซิดที่ใช้จะมีความเข้มข้นและความหนืดที่เหมาะสม ซึ่งออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ จึงทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และดูสุขภาพดีนั่นเอง
ฉีด Skin Booster เหมาะกับใครบ้าง
การฉีด Skin Booster เป็นวิธีการดูแลผิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ขึ้น ดังนี้
- ผู้ที่มีริ้วรอยแรกเริ่มเล็ก ๆ
- ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์
- ผู้ที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว
- ผู้ที่ไม่ต้องการใช้ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
5 ประโยชน์ของการฉีด Skin Booster
การฉีด Skin Booster เป็นวิธีการบำรุงผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีประโยชน์หลายอย่างที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ขึ้น ดังนี้
1. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
การฉีด Skin Booster จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยคุณสมบัติพิเศษของสารไฮยาลูโรนิก แอซิด ที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสาร ทำให้ผิวที่แห้งกร้าน ขาดน้ำ กลับมาชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอย่างเห็นได้ชัด
2. ลดเลือนริ้วรอย
Skin Booster ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนอกจากความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้นแล้ว สารที่ฉีดเข้าไปยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้นและผิวเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
3. กระชับรูขุมขน
สำหรับปัญหารูขุมขนกว้าง Skin Booster ก็สามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ เพราะการที่ผิวได้รับความชุ่มชื้นและมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น จะทำให้ผิวแน่นกระชับ รูขุมขนเล็กลง ส่งผลให้ผิวหน้าจึงดูเนียนเรียบขึ้น
4. ผิวเนียนนุ่ม หน้าใส มีออร่า
อีกหนึ่งประโยชน์ของที่โดดเด่น ก็คือการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและหน้าใสขึ้น เพราะ Skin Booster ไม่เพียงเติมความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวที่หมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ กลับมากระจ่างใส มีออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ
5. ลดการเกิดสิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง
การฉีด Skin Booster ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น กลับมากระชับ เด้ง ฟิต เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผิวได้รับการฟื้นฟูจากภายในสู่ภายนอก
ที่สำคัญ Skin Booster ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถป้องกันตัวเองจากมลภาวะและแสงแดดได้ดีขึ้น ลดการระคายเคืองและการแพ้ต่าง ๆ ลดการเกิดสิว ทำให้ผิวแข็งแรง และสุขภาพดีในระยะยาว
Skin Booster ตัวไหนดี? แนะนำ 5 แบรนด์ยอดนิยม
Skin Booster ตัวไหนดี? การฉีดผิวใส Skin Booster มีมากมายให้เลือกฉีด ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน สามารถทำความรู้จักกับ Skin Booster ที่เป็นที่นิยมได้ ดังนี้
Exosome
Exosome คือนวัตกรรมการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิว โดยทำงานหลายด้านพร้อมกัน ทั้งการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อความกระชับและลดรูขุมขน รวมถึงการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มเอิบมีสุขภาพดี และช่วยสมานแผลรวมถึงรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น แผลเป็น หลุมสิว รอยดำรอยแดง
นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอักเสบของผิวหนังและอาการแพ้ต่าง ๆ พร้อมกับยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ รวมถึงชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ทำให้ผิวมีสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
Filorga NCTF 135 HA
Filorga NCTF 135 HA เป็น Skin Booster ที่ช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตาและความหมองคล้ำจากเม็ดสี รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยพร้อมเพิ่มความกระชับให้แก่ผิว เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพในการดูแลผิวแบบครบวงจร โดยสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา และยังช่วยซ่อมแซม พร้อมฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Restylane
Restylane เป็น Skin Booster ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ด้วยประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำที่เหนือกว่าไฮยาลูรอนทั่วไป ทำให้ผิวคงความชุ่มชื่นได้ยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อใช้บริเวณรอบดวงตา จะช่วยฟื้นฟูความสดใสและลดเลือนริ้วรอย ส่งผลให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา
นอกจากนี้ หากฉีดทั่วบริเวณใบหน้า ยังช่วยเพิ่มความกระชับ ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม พร้อมมอบผลลัพธ์ผิวที่ดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ
Rejuran
Rejuran มีนวัตกรรมใหม่ที่มีส่วนผสมหลักเป็น Polynucleotide (PN) บริสุทธิ์ความเข้มข้น 2% ซึ่งสกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอน ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยจางลง อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระชับให้กับผิว ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อิ่มน้ำ และมีความวาวแบบผิวกระจก (Glass Skin) อย่างเป็นธรรมชาติ
SkinVive
SkinVive เป็นนวัตกรรมล่าสุดในวงการความงามจากบริษัท Juvéderm ที่กำลังเป็นที่นิยมในปีนี้ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ประเภทงานผิว โดยใช้เทคโนโลยีการฉีดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ถูกดัดแปลงให้อยู่ในรูปแบบไมโครดรอปเล็ต ที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
ด้วยการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา SkinVive สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย ทั้งริ้วรอย ร่องลึก รูขุมขน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า Skin Booster ทั่วไปถึง 3 เท่า
ซึ่ง SkinVive จะส่วนประกอบสำคัญด้วยกันดังนี้
- Aquaporin-3 ที่ทำหน้าที่เสมือนประตูในการเก็บกักน้ำและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
- Glycosamino Glycan ที่ช่วยเติมเต็มและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว
ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด SkinVive ก็คือผิวที่มีสุขภาพดีขึ้นในหลายด้าน ทั้งการลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน เปล่งประกาย และดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มน้ำที่มากกว่าปกติถึง 3 เท่า ทำให้ SkinVive เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวภายใต้คอนเซปต์ “ผิววิบ” โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง
ฉีดผิวใส Skin Booster ที่ไหนดี? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกคลินิกที่ไว้ใจได้เป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้
- ใบอนุญาตประกอบการ: สถานพยาบาลต้องมีใบอนุญาตถูกต้อง ได้มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ต้องมีประสบการณ์และจบด้านผิวหนังโดยตรง
- อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์: ต้องใช้ผลิตภัณฑ์แท้และมีมาตรฐานรับรอง
- การฉีดผิวใสต้องมีรีวิวและความน่าเชื่อถือ: อาจจะสอบถามจากผู้เคยใช้บริการจริง
ฉีดผิวใส Skin Booster ที่ไหนดี? ที่ Zeniq Holistic โดดเด่นด้วยการรักษาที่ครบวงจรและได้มาตรฐาน รวมถึงการเลือกใช้ Skin Booster จากแบรนด์ชั้นนำที่ผ่านการรับรองจาก อย. เช่น Exosome, Filorga NCTF 135 HA ที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ขั้นตอนการเตรียมตัว
การเตรียมตัวก่อนฉีด Skin Booster เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
- ปรึกษาแพทย์: ควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
- งดใช้ยา: เลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น อิบูโปรเฟน แอสไพริน และวิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ระคายเคือง: งดใช้สกินแคร์ที่มีกรดผลไม้ (AHA) หรือวิตามินซี ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคือง
- ดื่มน้ำเพียงพอ: เพราะการดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวระคายเคือง: เช่น การขัดผิวหรือการทำเลเซอร์
การดูแลหลังฉีด Skin Booster
การดูแลตัวเองหลังฉีด Skin Booster เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ดังนี้
- งดล้างหน้าและแต่งหน้า: ในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด ควรงดล้างหน้าและการแต่งหน้า เพื่อให้วิตามินซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และป้องกันการอักเสบหรือการติดเชื้อจากเครื่องสำอาง
- งดใช้ครีมบำรุง: ใน 24 ชั่วโมงแรก ควรงดการทาครีมบำรุงผิว เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการทำหัตถการ: ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรงดการนวดหน้า สครับหน้า และหัตถการอื่น ๆ เช่น การเลเซอร์ผิวหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการบอบช้ำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน: ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดและพื้นที่ร้อน เช่น ซาวน่า อย่างน้อย 1-2 วันหลังจากฉีด เพื่อปกป้องผิว
- ทาครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และลดโอกาสเกิดรอยดำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายจะช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการจับหรือเกาผิว: งดการจับหรือเกาในบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง
การฉีดผิวใส ดีไหม? การฉีด Skin Booster นั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของ Skin Booster
- เห็นผลทันที: สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด
- ไม่ต้องพักฟื้น: หลังการฉีด สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ผลข้างเคียงน้อย: มักไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง
- ปรับสภาพผิวหลายด้าน: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และปรับให้ผิวกระชับและกระจ่างใส
- ปลอดภัย: ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น US FDA และ อย.
ข้อเสียของ Skin Booster
- ไม่เหมาะกับคนกลัวเข็ม: การฉีดอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความกลัวการใช้เข็ม
- อาจต้องทำหลายครั้ง: สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมาก อาจต้องใช้ระยะเวลาและจำนวนครั้งในการรักษาที่มากขึ้น
- ราคาแพง: การฉีดผิวใสมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะและต้องทำโดยแพทย์มืออาชีพ
- ไม่เหมาะกับบางกรณี: ผู้ที่มีปัญหาผิวรุนแรงหรือโรคผิวหนังบางอย่างควรได้รับการรักษาเฉพาะทางก่อน
จะเห็นผลภายในกี่วัน
คำถามยอดฮิตที่ว่าการฉีดผิวใส กี่วันเห็นผล? คำตอบคือ ผลลัพธ์ของการฉีด Skin Booster จะค่อย ๆ เห็นผลตั้งแต่ 2-3 วันแรก โดยบางรายอาจเริ่มสังเกตเห็นผิวที่มีความชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้นได้ในช่วงนี้
สรุป
Skin Booster เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้สวยสุขภาพดี ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ใส่ใจการดูแลผิว สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด