Diode Laser คืออะไร ดีกว่าเลเซอร์ขนอื่นอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง? 

Diode Laser คืออะไร

เบื่อหนวด เครา ขนรักแร้ หรือขนส่วนเกินที่ไม่ต้องการ? เลเซอร์กำจัดขนคือคำตอบ! โดยเฉพาะ Diode Laser ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและประสิทธิภาพที่โดดเด่น ทำให้การกำจัดขนกลายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

อยากรู้ว่า Diode Laser คืออะไร? ทำงานอย่างไร? เหมาะกับใคร? และแตกต่างจากเลเซอร์ชนิดอื่นอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ! เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับ Diode Laser เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าเหมาะกับคุณหรือไม่

Diode Laser คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร

Diode Laser คือเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขนอย่างถาวร ด้วยความยาวคลื่นที่หลากหลายตั้งแต่ 800-810, 940, 1,064-1,350 นาโนเมตร ซึ่งช่วงความยาวคลื่น 800-810 นาโนเมตร เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยพลังงานของเลเซอร์จะทะลุลงไปถึงรากขน ทำลายรากขนได้อย่างตรงจุดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นบน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวสีอ่อนถึงปานกลางและมีขนสีเข้ม

เมื่อยิง Diode Laser ที่ผิวหนัง พลังงานแสงจะถูกดูดซับโดยเมลานิน หลังจากนั้นเมลานินจะเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นความร้อน ส่งผลให้รากขนถูกทำลายอย่างรวดเร็วและถาวร ทำให้ขนหลุดร่วงไปในที่สุด 

เลือกอะไรดี? ระหว่าง Diode Laser VS. Yag laser 

เปรียบเทียบเครื่องเลเซอร์กำจัดขนแต่ละแบบ

Diode Laser VS. Yag Laser อันไหนดีกว่ากัน?  เมื่อพูดถึงเลเซอร์กำจัดขน หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ Diode Laser กับ Yag Laser ทั้ง 2 ชนิด ที่เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการกำจัดขน แต่จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สรุปได้ดังนี้ 

  • Diode Laser: มีช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลาย (800-1,350 นาโนเมตร) ทำให้สามารถปรับให้เข้ากับสีผิวของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวสีอ่อนไปจนถึงปานกลาง นิยมใช้กับบริเวณที่มีขนหนาแน่น เช่น แขน ขา หน้าอก และหลัง เป็นต้น
  • Yag Laser: เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นที่ 1,064 นาโนเมตร สามารถใช้งานได้กับทุกสีผิว รวมถึงผิวสีเข้ม จึงเหมาะกับการกำจัดขนในบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น หนวดเครา รักแร้ และเลเซอร์บริเวณบิกินี เป็นต้น

ก่อนตัดสินใจเลือกทำเลเซอร์แบบใด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและขนของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

Diode Laser กำจัดขนตรงไหนได้บ้าง

Diode Laser กำจัดขนตรงไหนได้บ้าง

Diode Laser คือตัวเลือกยอดนิยมในการกำจัดขนส่วนเกิน ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์รักแร้ ขนหน้า ขนขาและแขน หรือบริเวณบิกินี่ ด้วยประสิทธิภาพที่ช่วยให้ขนขึ้นช้าลงและบางลง พร้อมทั้งความปลอดภัยที่ทำให้ผิวไม่ระคายเคือง

Diode Laser เหมาะกับใคร

  • คนที่อยากกำจัดขน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดในร่างกาย
  • คนที่ต้องการผิวเรียบเนียน และต้องการความมั่นใจในทุกชุดที่สวมใส่
  • คนที่ต้องการลดปัญหาผิว เช่น ขนคุด หนังไก่ รูขุมขนอักเสบ ฯลฯ
  • คนที่เบื่อกับการโกน แวกซ์ และอยากหาทางลัดที่ง่ายกว่า
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน ลดปัญหาขนขึ้นซ้ำ
  • คนที่ผิวและขนสีเข้ม เพราะ Diode Laser ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  • คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง 

Diode Laser ไม่เหมาะกับใคร

การทำ Diode Laser เป็นการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ที่ส่งผลต่อผิวหนัง ดังนั้นจึงมีบางกลุ่มที่ไม่ควรรับการรักษาเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

  • คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพราะพลังงานจากเลเซอร์อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ หรือผู้ที่ต้องใช้ยาทาผิวบางชนิด อาจทำให้ผิวบอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหลังทำเลเซอร์
  • ผู้ที่มีสิวอักเสบ สิวหนอง หรือแผลสด ควรรักษาให้หายก่อนจึงค่อยทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและผลลัพธ์ที่ดี
  • ผู้ที่ไม่สามารถทำเลเซอร์ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าไม่สามารถทำเลเซอร์ได้ตามที่แพทย์แนะนำ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

เลเซอร์ด้วย Diode Laser เจ็บไหม ต้องทำกี่ครั้ง

Diode Laser เจ็บไหม? ความรู้สึกขณะทำเลเซอร์ขน จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนอาจรู้สึกเหมือนยางยืดตึงผิวเบา ๆ หรือแค่รู้สึกอุ่น ๆ แต่บางคนอาจไม่รู้สึกเจ็บเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำเลเซอร์ด้วย ยิ่งทำบ่อยเท่าไร ผิวก็จะยิ่งคุ้นเคยและรู้สึกเจ็บน้อยลงมากเท่านั้น

ทำเลเซอร์ขน กี่ครั้งเห็นผล? อย่างไรก็ตาม ถ้าเพิ่งเริ่มเลเซอร์ครั้งแรก แค่ 2-3 สัปดาห์ก็จะเห็นขนเริ่มหลุดร่วง แต่ถ้าอยากให้ขนขึ้นช้าลง หรือแทบจะไม่ขึ้นเลย แนะนำให้ทำต่อเนื่องประมาณ 5-8 ครั้งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพขนและบริเวณที่ต้องการทำด้วย

ข้อดีของ Diode Laser

ข้อดีของการกำจัดขนด้วย diode laser

Diode Laser ดีไหม? Diode Laser ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพในการกำจัดขนที่เหนือกว่าและยังช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย

  • ช่วยให้ขนขึ้นใหม่น้อยลงและลดโอกาสการเกิดขนคุด
  • กำจัดขนได้อย่างตรงจุด เพราะสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวรในหลายบริเวณของร่างกาย โดยไม่ทำร้ายผิว
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขน ลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว
  • Diode Laser ไม่เพียงแต่กำจัดขนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำ และช่วยให้แผลเป็นตื้นขึ้น
  • ลดโอกาสการเกิดขนคุด และหนังไก่

ข้อเสียและผลข้างเคียง

ข้อเสียและผลข้างเคียงหลังทำ Diode Laser นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

  • ผลข้างเคียงชั่วคราว: มักเกิดขึ้นหลังทำไม่นาน เช่น ผิวแดง บวม ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
  • ผลข้างเคียงรุนแรง: เกิดขึ้นได้น้อยมาก มักเกิดจากการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการปรับตั้งค่าพลังงานสูงเกินไป อาการที่พบบ่อยคือ ผิวไหม้ แสบร้อน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้

การเตรียมตัวก่อนกำจัดขน

ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่ว่าจะทำเลเซอร์ขนบริเวณไหน การเตรียมตัวเบื้องต้นก็มีความสำคัญต่อผลลัพธ์ที่ออกมา ดังนี้

  • 4-6 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ ควรหลีกเลี่ยงการกำจัดขนด้วยวิธีที่ดึงรากขน เช่น การถอนหรือแวกซ์ขน เพื่อให้รากขนยังคงอยู่และสามารถดูดซับพลังงานเลเซอร์ แต่ก็ยังสามารถตัดเล็มขนสั้น ๆ ได้
  • 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อป้องกันผิวไหม้และลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแดงหลังทำเลเซอร์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือกรดวิตามินเอ เพราะอาจทำให้ผิวบอบบางและระคายเคืองได้ง่ายขึ้น
  • ควรบำรุงผิวด้วยครีมหรือโลชั่นเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  • หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาใด ๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทราบก่อนทำเลเซอร์ เพื่อความปลอดภัย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย เพื่อป้องกันการเสียดสีและระคายเคืองผิวหลังทำเลเซอร์

ดูแลตัวเองหลังกำจัดขน

หลังจากทำเลเซอร์กำจัดขน ผิวของคุณอาจจะยังบอบบางและไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย เพื่อให้ผิวฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • อย่าแกะหรือเกาบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นได้
  • ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีแสงแดดแรง และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ
  • งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อน เช่น การสตีม ซาวน่า หรือการออกกำลังกายก็ควรหลีกเลี่ยงในช่วงนี้
  • หากทำ Diode Laser หน้าใส ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า สครับผิวหน้า หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม และกรดต่าง ๆ เช่น AHA BHA กรดวิตามินเอ
  • อย่ากำจัดขนด้วยวิธีอื่น เช่น การถอน ดึง หรือแว็กซ์ขน อาจทำให้รากขนแข็งแรงขึ้นและส่งผลต่อการทำเลเซอร์ในครั้งต่อไป
  • ทาครีมบำรุงหรือมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง

ทำ Diode Laser ที่ไหนดี 

ทำ Diode Laser เลเซอร์ขนที่ไหนดี? การเลือกทำเลเซอร์กำจัดขนเปรียบเสมือนการลงทุนกับผิวพรรณ ดังนั้น การเปรียบเทียบและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาดังนี้

  • ประสบการณ์ของคลินิกและผู้เชี่ยวชาญ: คลินิกที่มีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล จะช่วยให้มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย
  • เครื่องมือและเทคโนโลยี: เลือกคลินิกที่มีเครื่องมือเลเซอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน มีระบบระบายความเย็นเพื่อลดอาการเจ็บระหว่างทำ
  • ราคาและโปรโมชั่น: เปรียบเทียบราคาเลเซอร์ขนของแต่ละคลินิก รวมถึงโปรโมชันที่น่าสนใจ แต่ไม่ควรเลือกเพียงราคาถูกอย่างเดียว ควรพิจารณาคุณภาพควบคู่กันไป
  • ความสะอาดและบรรยากาศ: คลินิกควรมีความสะอาด ถูกสุขอนามัย และมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
  • รีวิวจากผู้ใช้จริง: การอ่านรีวิวจากลูกค้าท่านอื่น ๆ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

Zeniq Holistic มีเทคโนโลยี Diode Laser ที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่พึงพอใจและปลอดภัย

สรุป

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำลายรากขนได้อย่างตรงจุด ช่วยลดการเกิดขนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวจึงเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีข้อดีอีกอย่างคือกระบวนการทำ Diode Laser จะเจ็บน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ และยังช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิว เช่น ขนคุด ตุ่มหนังไก่ หรือรูขุมขนอักเสบอีกด้วย ทำให้คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกทำ Diode Laser นั้นไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ราคาอย่างเดียว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลินิกที่ให้บริการ และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้วย เนื่องจากราคาของการทำ Diode Laser แต่ละแห่งอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความหนาแน่นของเส้นขน และจำนวนครั้งที่ทำ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาขนของคุณมากที่สุด